Wednesday, July 4, 2018

Facebook และ Instagram ทดสอบฟีเจอร์ Do Not Disturb


Facebook และ Instagram ทดสอบฟีเจอร์ Do Not Disturb
0   Facebook+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+Instagram+%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%9F%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C+Do+Not+Disturb
ในตอนนี้ทาง TechCrunch  ได้มีรายงานออกมาว่าทั้ง Facebook และ Instagram นั้นกำลังพัฒนาและทดสอบฟีเจอร์ Do Not Disturb กันอยู่และหมายความว่าถ้ามีการแจ้งออกมาอย่างเป็นทางการผู้ใช้ก็สามารถที่จะเริ่มใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวกันได้เลย
Facebook และ Instagram ทดสอบฟีเจอร์ Do Not Disturb
โดยทางแอคเคาท์ทวิตเตอร์ WhatsApp Beta และ Matt Navarra เป็นจุดเริ่มของการสังเกตเห็นฟีเจอร์นี้ตามมาด้วยทีมงานของทาง Engadget บางส่วนที่สังเกตเห็นฟีเจอร์ Do Not Disturb ปรากฏอยู่บนแอพ Facebook และมันก็อนุญาตให้ได้ลองใช้งานกันแล้วเพื่อมาเป็นตัวช่วยในการกำหนดกรอบเวลาในการปิดการแจ้งเตือนจากแอพฯ นั่นเอง (หรือจะปิดการเตือนเอาไว้จนกว่าเราจะเลือกเปิดเอง) และฟีเจอร์จะมีให้ใช้งานในแอพ Facebook ทั้งบนระบบ Android และ iOS
ซึ่งในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้นทาง Kevin Systrom ผู้เป็น CEO ของ Instagram ได้ออกมา Tweet เอาไว้ว่าทุกอย่างกำลังอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบเพื่อให้ชาว IG นั้นได้ทราบถึงข้อมูลเวลาของพวกเขาที่ใช้บน Instagram ในแต่ละวันซึ่งเป็นความหวังดีที่ทางแอพฯ อยากจะมอบให้กับผู้ใช้ทุกคนนั่นเอง
Facebook และ Instagram ทดสอบฟีเจอร์ Do Not Disturb
นอกจากฟีเจอร์ Do Not Disturb แล้วนั้นทาง Instgram ยังได้ออกมาประกาศถึงอีกหนึ่งฟีเจอร์ด้วยนั่นก็คือ You're All Caught Up ซึ่งฟีเจอร์นี้จะแสดงข้อความบอกว่า เราได้เห็นโพสต์ทุกโพสต์ที่มีการเผยแพร่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมานั้นครบทุกโพสต์แล้ว และเมื่อเลื่อนผ่านโพสต์เหล่านั้นไปแล้วคุณก็ยังสามารถดูโพสต์ที่เก่ากว่าได้อีกด้วย
เพราะทางทีมงานเข้าใจดีว่ามันยากที่คุณจะตามและเห็นทุกโพสต์อย่างที่ควรจะเป็น และนี่คือฟีเจอร์ที่จะเข้ามาช่วยให้คุณไม่พลาดทุกภาพและวีดีโอที่คุณติดตามอยู่ และสำหรับฟีเจอร์นี้ก็ได้เปิดตัวทั้งบน iOS และ Android เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คิดว่า ฟีเจอร์ในข่าวนี้ก็ดีที่ช่วยในการแสดงโพร์ตของเก่าได้
นิว ไทยเว็ป

Facebook ประกาศการพบบัคในระบบ ทำให้เกิดการปลดบล็อกผู้ใช้บางคนเองโดยอัตโนมัติ

เมื่อ : 
ผู้เข้าชม : 676
เขียนโดย :   

Facebook ประกาศการพบบัคในระบบ ทำให้เกิดการปลดบล็อกผู้ใช้บางคนเองโดยอัตโนมัติ
0   Facebook+%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A+%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4
Facebook ประกาศการพบบัคในระบบ ที่ส่งผลไปถึงการตั้งค่ารายชื่อคนที่ถูกผู้ใช้บล็อกบางคน อาจได้รับการ "ปลดบล็อก (Unblock)" เองโดยอัตโนมัติ โดย Erin Egan เจ้าหน้าที่ด้าน Privacy ของบริษัทกล่าวว่า ข้อผิดพลาดดังกล่าว เกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม ถึง 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา และมันส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ราว 8 แสนราย
แต่ Facebook ก็ได้ให้ข้อมูลว่า 83% ของผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบนั้น พบว่าจะมีเพียงคนเดียวในลิสต์ของคนที่ถูกบล็อก ที่จะได้รับการปลดบล็อก จากบัคดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ใช้ที่ถูกปลดบล็อกก็จะไม่สามารถมองเห็นโพสต์ที่ตั้งค่าไว้ให้เห็นได้แค่เฉพาะ "เพื่อนเท่านั้น (Friends-only)" แต่ก็จะเป็นการอนุญาตให้ผู้ใช้ดังกล่าวมองเห็นโพสต์ที่คุณแชร์ออกไปมากขึ้น ในส่วนที่ไม่ได้ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว หรือตั้งเป็น Friends of friends
และผู้ใช้ที่ถูกปลดบล็อกก็จะสามารถส่งคำขอเป็นเพื่อนถึงคุณได้อีกครั้ง (ถ้าพวกเขารู้ตัว) รวมถึงการส่งข้อความผ่าน Messenger อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ปัญหาดังกล่าวก็ได้รับการแก้ไขแล้ว ทุกคนที่ถูกบล็อกจะถูกตั้งค่าให้ถูกบล็อกแบบเดิม และผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการแจ้งเตือนจาก Facebook เพื่อให้เข้าไปตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อผู้ที่ถูกบล็อกอีกครั้ง
Facebook ประกาศการพบบัคในระบบ ทำให้เกิดการปลดบล็อกผู้ใช้บางคนเองโดยอัตโนมัติ
พร้อมกันนี้ Facebook ก็ได้แสดงความเข้าอกเข้าใจในเรื่องความสำคัญของ "การบล็อก" ซึ่งนอกเหนือจากประเด็นเรื่องที่ผู้ใช้อาจรำคาญโพสต์ของใครสักคน ยังรวมไปถึงประเด็นเรื่องของการกลั่นแกล้ง คุกคาม หรือล่วงละเมิด อีกด้วย
คิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เสียหายอะไรแต่บางคนไม่พอใจแต่ก็ได้รับการแก้ไขแล้ว
today.line

ฉลาดล้ำ! กาพันธุ์ New Caledonian ใช้ความจำจากสิ่งที่เห็น สร้างเครื่องมือหากินได้

เมื่อ : 
ผู้เข้าชม : 775
5 (1 โหวต)
เขียนโดย :   
ฉลาดล้ำ! กาพันธุ์ New Caledonian ใช้ความจำจากสิ่งที่เห็น สร้างเครื่องมือหากินได้
0   %E0%B8%89%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B3%21+%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C+New+Caledonian+%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%99+%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89
คงไม่มีใครปฏิเสธว่า "กา" เป็นสัตว์ที่ฉลาด พวกมันสามารถจำได้ว่าอาหารถูกซ่อนไว้ที่ไหน รวมถึงจดจำใบหน้า และเครื่องมือที่ใช้ประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ได้ ซึ่งผลการศึกษาล่าสุดที่เผยแพร่ใน Scientific Reports ยังพบด้วยว่า กาพันธุ์ New Caledonian ที่อาศัยอยู่บนเกาะ New Caledonia ในออสเตรเลีย ฉลาดถึงขั้นที่สามารถสร้างเครื่องมือต่างๆ ได้เองจากการอาศัยความจำ
แม้เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า กาพันธุ์ New Caledonian มีความสามารถในการทำเครื่องมือขึ้นเองได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถอธิบายได้ว่ากาพันธุ์นี้ได้ทักษะดังกล่าวมาจากไหน ทีมนักวิจัยจาก University of Cambridge นำโดย Sarah Jelbert จึงทำการทดสอบเพื่อหาคำตอบในเรื่องนี้ โดยเชื่อว่ากาเหล่านี้สร้างเครื่องมือขึ้นเองโดยอิงจากความจำในสิ่งที่พวกมันเคยเห็นมาก่อน
ทั้งนี้ ในการทดสอบ ทีมวิจัยฝึกให้กาพันธุ์ New Caledonian 8 ตัว เรียนรู้วิธีการใส่กระดาษที่แทน "เหรียญ" ลงไปใน "เครื่องขายสินค้าหยอดเหรียญจำลอง" เพื่อแลกกับอาหารที่จะหล่นออกมา ซึ่งพวกมันจะได้ของกินก็ต่อเมื่อเลือกใส่กระดาษได้ถูกขนาดเท่านั้น 
ฉลาดล้ำ! กาพันธุ์ New Caledonian ใช้ความจำจากสิ่งที่เห็น สร้างเครื่องมือหากินได้
โดยหลังจากเรียนรู้ในเรื่องนี้แล้ว ทีมวิจัยเปลี่ยนวิธีใหม่ ด้วยการให้กระดาษแผ่นใหญ่กับกาเหล่านั้นแทน ซึ่งปรากฏว่าพวกมันสามารถฉีกกระดาษให้เป็นชิ้นเล็กเท่ากับขนาดเหรียญที่ได้รับของกินก่อนหน้านี้ได้ และที่สำคัญ กาทั้งหมดไม่มีต้นแบบให้เห็นเมื่อต้องจัดการกับกระดาษแผ่นใหญ่ที่ได้มา แต่
ทีมวิจัยระบุว่า การทดสอบดังกล่าวที่ไม่มีต้นแบบให้ก๊อปปี้หรือเลียนแบบ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนความคิดที่ว่ากาพันธุ์ New Caledonian สามารถสร้างวัฒนธรรมของตัวเองขึ้นมาได้ โดยไม่เพียงสร้างเครื่องมือขึ้นมาจากความจำที่ได้เห็นมาเท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพในการออกแบบเครื่องมือให้ดีขึ้นได้ ซึ่งอาจกลายมาเป็นต้นแบบให้การุ่นหลังได้เรียนรู้ และนำไปสู่การทำเครื่องมือที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น จึงมองว่าสิ่งนี้จะเป็นองค์ประกอบสำคัญของความก้าวหน้าทางวัฒนธรรม
คิดว่า หน้าสนใจเหมือนกันที่จะวิจัยความฉลาดของกาซึ่งสืบเนื่องมาจนถึงเป็นความก้าวหน้าทางวัฒนธรรม
นิว ไทยเว็ป

Thursday, June 14, 2018




Ubisoft เปิดตัว Assassin’s Creed ภาคใหม่ “Odyssey” สู่ยุคกรีกโบราณ

หลังมียุคอียิปต์โบราณในภาค Origins ไปแล่ว ล่าสุดทาง Ubisoft ได้เผยภาคใหม่ของเกม Assassin’s Creed ในชื่อว่า Odyssey กับธีมเนื้อเรื่องสมัยกรีกโบราณ

ก่อนงานมหกรรมเกมโชว์ระดับโลกอย่าง E3 ประจำปี 2018 ในวันที่ 12 – 14 มิถุนายนนี้ ทางค่าย Ubisoft  ได้เผยชื่อภาคใหม่ของเกม Assassin’s Creed ว่า Odyssey สู่ยุคกรีกโบราณ พร้อมเผยภาพ
This is spartaaaa  ตัวอย่างเกมสวย ๆ เล็กน้อย
ก็เป็นไปตามข่าวลือ หลังก่อนนี้เคยมีภาพหลุด พวงกุญแจรูปหมวกนักรบกรีกโบราณ พร้อมชื่อ Odyssey ก็ทำให้แฟน ๆ เกมนี้เดาได้ไม่ยากเลยว่า ต่อไปเป็นภาพเกี่ยวยุคกรีกโบราณแน่นอน ส่วนตัวอย่างเกมสั้น ๆ 6 วินาที ที่เผยใน Twitter นี้ ก็เป็นทหารในยุคกรีกถีบอีกฝ่ายตกหน้าผา (เสียง “Fus Ro Dah” ลอยมาแต่ไกล) คล้าย ๆ ฉากสำคัญในส่วนรายละเอียดที่เหลือ ทาง Ubisoft ให้ไปติดตามต่อในงานเปิดตัว Assassin’s Creed Odyssey อย่างเป็นทางการที่ E3 2018 โดยเริ่มวันแรกหรือ 12 มิถุนายน 61 นี้ครับ
คิดว่า เป็นเกมที่หน้าสนใจเพราะมีเนื้อหาเกี่ยวกับเทพนิยายกรีกที่หน้าสนใจ
aripfan


ลือ Microsoft กำลังเข้าซื้อ GitHub เตรียมประกาศอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้

หลังมีรายงานว่า Microsoft กำลังเจรจาเข้าซื้อ GitHub เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานเผยว่า Microsoft กำลังจะประกาศการเข้าซื้ออย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้แล้ว

ช่วงนี้มีสื่อใหญ่ต่างประเทศ กำลังรายงานเรื่องนี้ไม่น้อย โดยทาง Bloomberg ได้ออกมาเผยว่า Microsoft กำลังเข้าซื้อ GitHub เตรียมประกาศอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ หลังมีการเจรจาเข้าซื้อมานาน กระทั่งมีรายงานเผยว่า ทั้งสองบริษัท เพิ่งมีการพูดคุยเรื่องนี้อีกครั้ง เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ส่วนสาเหตุการเข้าซื้อนั้น คาดมาจากตัวซีอีโอของ Microsoft อย่าง Satya Nadella เอง ที่ทำให้ GitHub ยอมขายกิจการให้กับทาง Microsoft แต่ตอนนี้เหมือนจะไม่ราบรื่นนัก เนื่องจาก GitHub ได้เสนอราคามากกว่าที่ Microsoft คาดไว้ โดยปี 2015 ทาง GitHub เคยมีมูลค่ากิจการอยู่ที่ 2,000 ล้านเหรียญฯ ปัจจุบันอาจมีมูลค่ามากถึง 5,000 ล้านเหรียญกันเลย
อีกสาเหตุก็มาจากสถานการณ์ปัจจุบันของ GitHub ที่กำลังประสบปัญหาด้านการเงินพอควร และยังขาดซีอีโอมาบริหารด้วย โดยตอนนี้ได้ Chris Wanstrath หนึ่งในผู้ก่อตั้งมารับตำแหน่งชั่วคราว
สำหรับ GitHub ก็เป็นแหล่งรวม Source Code ชื่อดังมากมาย และเป็นพื้นที่สำหรับพูดคุยระหว่างนักพัฒนาทั่วโลกด้วย ส่วนเรื่องการเข้าซื้อนี้ ทั้ง Microsoft และ GitHub ยังไม่ได้ออกมาพูดอะไรครับ
aripfan

Wednesday, June 13, 2018



เปิดตัว Anker PowerCore แบตฯ สำรอง Nintendo Switch รองรับ USB-C

Anker เปิดตัว Anker PowerCore แบตฯ สำรองขนาด 13400mAh เล่มเพิ่มได้อีก 10 ชั่วโมงและขนาด 20100mAh เล่นเพิ่มได้อีก 15 ชั่วโมง รองรับชาร์จผ่านสาย USB-C
หลายคนที่มี Nintendo Switch น่าจะเคยเจอปัญหา “แบตฯ หมดไว” ถ้าไม่ได้พก Power Bank คงรู้สึกเหมือนของขาดแน่ ๆ ล่าสุดทาง Anker ได้เปิดตัว Anker PowerCore แบตฯ สำรองสำหรับ Nintendo Switch โดยเฉพาะ ด้วยการรองรับชาร์จไวผ่านสาย USB-C โดยใช้เวลาในการชาร์จเพียง 3 ถึง 3.5 ชั่วโมงเท่านั้น (เร็วพอ ๆ กับ Adapter) หรือจะเอาไปชาร์จสมาร์ทโฟนผ่าน USB-A อีกช่องก็ได้
ส่วนตัว Anker PowerCore ก็มีให้เลือก 2 ความจุ อาทิ ขนาด 13400mAh เล่มเพิ่มได้อีก 10 ชั่วโมง ราคา 70 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,300 บาท และขนาด 20100mAh เล่นเพิ่มได้อีก 15 ชั่วโมง ราคา 90 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,900 บาท เปิดให้จองได้แล้วที่ www.anker.com
คิดว่า หน้าสนใจที่จะซื้อราคาไม่ค่อยแพงเท่าไหร่และยังสามารถชาตได้นาน
aripfan




เผย Xbox One เตรียมรองรับฟีเจอร์ Alexa และ Google Assistant เร็ว ๆ นี้



เว็บไซต์ Windows Central เผย Xbox One อาจรองรับการทำงานร่วมกับ Alexa และ Google Assistant เร็ว ๆ นี้ หลังพบตัวเลือก “Enable digital assistants” ในหน้า Dashboard ของตัวเครื่อง
“เปิดเกม PUBG ซิ Xbox One” ต่อไปอาจได้เห็น Xbox One มีความอัจฉริยะแบบอุปกรณ์ IoT สมัยใหม่ก็เป็นได้ หลังทางเว็บไซต์ Windows Central เผยพบตัวเลือก “Enable digital assistants” ในหน้า Dashboard ของ Xbox One ซึ่งเชื่อว่า ต่อไปตัวเครื่องอาจรองรับผู้ช่วยอัจฉริยะเพิ่มเติมอย่าง Alexa และ Google Assistant ก็เป็นได้
แม้ Microsoft จะมี Cortana อยู่แล้ว แต่ดูเหมือนจะยังมีการทำงานที่ค่อนข้างจำกัด เมื่อเทียบกับ Alexa และ Google Assistant ทำให้ต้องขยายการสนับสนุนของ Xbox One เพิ่มเติมนี้เอง
อย่างไรก็ตาม ทาง Microsoft ยังไม่รายละเอียดเผยว่าจะให้ Alexa และ Google Assistant มีการสนับสนุนอย่างไร และต้องใช้งานผ่านอุปกรณ์เสริมแบบไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า รอติดตามกันอีกที แต่ว่าต่อไปเราอาจจะได้เห็นการเล่นรูปแบบใหม่ในเกมบางเกมแน่ ๆ ครับ
คิดว่า เป็นสินค้าที่หน้าสนใจและทันสมัยแต่ก็ต่อรอติดตามข่าวสารเพิ่มเติม
xbook

Wednesday, June 6, 2018

ตึกเอียงเพลินจิต

          8.)เร่งหามือโพสต์ภาพ อาคารเพลินจิตเอียง ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำข้อความเท็จเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก

          จากกรณีที่ สมาชิกเฟซบุ๊กคนหนึ่ง ได้โพสต์ภาพชวนหวาดเสียว พร้อมเขียนคำบรรยายว่า "ณ สถานีเพลินจิต ตรงโครงการสร้างตึกใหม่ตรงข้ามตึกมหาทุน น่ากลัวจะหัก (ตึก Noble ติด ๆ กันด้วย) #js100radio ช่วยประสานต่อที" ทำให้ในโลกออนไลน์ต่างตื่นตระหนก และวิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า ตึกในภาพน่าจะเป็นโรงแรมโรสวูด เพลินจิต ซึ่งอยู่ในระหว่างก่อสร้าง โดยตัวอาคารด้านหน้าออกแบบให้มีลักษณะหน้าตัดเหมือนดาบ และเตรียมเปิดบริการในอีกสองปีข้างหน้า 
          ขณะที่ต่อมา ทางผู้อำนวยการสำนักงานเขตปทุมวัน ก็ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า จากในภาพไม่ได้เกิดจากอาคารทรุดเอียง แต่เป็นดีไซน์ของตัวตึกเอง (อ่านข่าว : อย่าแตกตื่น ตึกดังเพลินจิตไม่ได้เอียงจ่อถล่ม-ตั้งใจดีไซน์)
          จากเรื่องดังกล่าว (15 สิงหาคม 2560) ทวิตเตอร์ @Nalinee_PLE รายงานว่า กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 สั่ง ผบก.น.6 สน.ลุมพินี เร่งหาตัวมือโพสต์ภาพอาคารย่านเพลินจิตเอียง เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 (2) นำข้อความเท็จเข้าระบบคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จก่อให้เกิดความตื่นตระหนก โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คิดว่า ก่อนจะเผยแพร่ข่าวสารอะไรควรดูให้ดีก่อนว่าเป็นความจริงหรือไม่
กระปุก
7.) เพจเฟซบุ๊ก สายตรงกฎหมาย เตือนคนชอบแอบเข้าดูโทรศัพท์มือถือแฟน เข้าข่ายผิด พ.ร.บ. คอมพ์ ส่อจำคุก 2 ปี หรือปรับ 4 หมื่น          กำลังเป็นเรื่องที่ผู้มีพฤติกรรมไม่ไว้วางคู่รักต้องเสียวกันเป็นแถบ ๆ หลังเพจเฟซบุ๊ก สายตรงกฎหมาย ระบุว่า ผู้ใดที่แอบเข้าไปดูโทรศัพท์มือถือของคนอื่น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย แม้กรณีดังกล่าวผู้ที่แอบดูอาจจะเป็นคู่รักกันก็ตาม    โพสต์ดังกล่าวใจความว่า การแอบดูโทรศัพท์ของแฟนหรือของผู้อื่น กฎหมายไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าเป็นความผิด แต่ถือว่าเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะโทรศัพท์สมัยนี้เป็นสมาร์ทโฟนเกือบทั้งหมด ดังนั้นการเข้ารหัสโทรศัพท์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจเข้าข่ายเป็นการเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องดูเป็นกรณีไป ดังนั้นหากหมดรักหรือขัดแย้งกันอีกฝ่ายอาจจะสามารถเอาผิดได้
          สำหรับ กรณีนี้นั้น มาจากพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550           มาตรา 3 “ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่งหรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย   มาตรา 7 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอรที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สําหรับตน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
คิดว่า ก่อนจะก่อนไปทำอะไรควรคิดพิจารนาด้วยความระมัดระวัง
ฟิกนาโพร์ต
6.)เปิดบทสนทนาหนุ่มอ้างเป็นผู้บริหาร ยอมจ่าย 2.2 แสน ให้นักข่าวสาวแลกกับเซ็กส์ ต้องการแค่ความสุขใส่ตัว ไม่เอาความรัก - ไม่สร้างครอบครัว หรือออกเดตเป็นครั้งให้ 1.2 แสน
          วันที่ 12 ธันวาคม 2560 รายการบรรจงชงข่าว ได้รับการร้องเรียนถึงพฤติกรรมชายคนหนึ่งจากผู้สื่อข่าวสาวคนหนึ่ง ที่ใช้เฟซบุ๊กส่งข้อความยื่นข้อเสนอให้เป็นภรรยาลับ โดยจะให้เงินเดือนละ 220,000 บาท แลกกับการพบกันเพื่อมีเพศสัมพันธ์ 3 ครั้งต่อเดือน แต่ต้องไม่ผูกมัดและไม่มีการแสดงออกในความรักต่อกัน ไม่ต้องการสร้างครอบครัว และได้ขอนัดเซ็นสัญญาที่ระบุว่า หากฝ่ายหญิงอ่านสัญญาแล้วไม่ตกลง ยินดีจ่ายค่าเสียเวลา 25,000 บาท แต่หากตกลงก็จะไปตรวจร่างกายทั้งสองฝ่ายต่อไป รวม 2 ครั้ง ก่อนจะเริ่มต้นปฏิบัติตามสัญญา  
          เมื่อชายคนดังกล่าวไม่ได้รับการตอบกลับจากผู้สื่อข่าวสาว จึงส่งภาพหญิงสาวหลายคนในลักษณะเปลือยกายมาให้ดู พร้อมบอกว่า เป็นผู้หญิงที่เคยรับข้อเสนอของเขา นอกจากนี้ยังขอนัดเป็นรายครั้ง โดยให้เงิน 120,000 บาทต่อครั้ง
จากการสอบถาม ผู้สื่อข่าวสาว เผยว่า ตนกลัวและตกใจ ก่อนนำไปปรึกษาครอบครัว ซึ่งในตอนแรกตั้งใจว่าจะแจ้งความดำเนินคดีเพราะเข้าข่ายผิดกฎหมายการค้าประเวณี แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วเชื่อว่าชายคนดังกล่าว น่าจะแอบอ้างชื่อและรูปภาพของคนอื่นใช้เปิดบัญชีเฟซบุ๊กในการติดต่อ จึงได้ทำการบล็อกไปแล้ว
อย่างไรก็ดี เมื่อทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ได้ตรวจสอบเฟซบุ๊กของชายคนดังกล่าว พบว่ามีการระบุสถานะว่าเป็นผู้บริหารของเอกชนหลายแห่ง เมื่อนำชื่อและนามสกุล ไปค้นในกูเกิลพบว่ามีบุคคลที่ใช้ชื่อและนามสกุลนี้ แต่ภาพไม่ตรงกัน จึงเชื่อว่าชายคนนี้น่าจะแอบอ้างชื่อและรูปภาพคนอื่น 
ทั้งนี้ พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และเข้าข่ายพฤติกรรมการค้ามนุษย์ จึงขอเตือนให้สาว ๆ ระมัดระวัง หากหลงเชื่ออาจถูกล่อลวงไปกระทำมิดีมิร้ายได้
คิดว่าเราไม่ควรที่จะนำเอารูปและชื่อของคนอื่นมาแอบอ้าง และควรระวังการโดนหลอกด้วยวิถีนี้
กระปุก

 5แฮกเกอร์! ถล่มเว็บศาลฯ คาดไม่พอใจคดีเกาะเต่า โฆษกศาล ยธ.ลั่นเอาผิด


เมื่อวันที่ 13 ม.ค.59 นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่หน้าเว็บไซต์สำนักงานศาลยุติธรรม ถูกแฮกเกอร์บุกรุกจนไม่สามารถใช้งานได้ว่า จากการตรวจสอบการเชื่อมต่อโครงข่ายข้อมูลหน้าเว็บไซต์สำนักงานศาลยุติธรรมนั้นไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เวลา 22.00 น.ของวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยครั้งแรกที่ตรวจสอบพบว่า หน้าเว็บเพจหน้าแรกของสำนักงานศาลยุติธรรม กลายเป็นบนพื้นสีดำ และมีรูปสัญลักษณ์คล้ายหน้ากากสีขาว พร้อมข้อความภาษาอังกฤษ เขียนว่า “BLINK HACKER GROUP” และ “Failed Law We Want Justice ! # Boycott Thailand” และจากการสืบค้นพบว่า “BLINK HACKER GROUP” เชื่อมโยงกลุ่มที่ใช้ชื่อ Anonymous Myanmar Hacker ซึ่งเหตุดังกล่าว จนถึงวันนี้ (13 ม.ค.) หน้าเว็บไซต์ของสำนักงานศาลยุติธรรม ยังไม่สามารถเข้าใช้งานได้ตามปกติ แต่ก็เป็นเพียงการที่บุคคลภายนอกไม่สามารถใช้งานได้เท่านั้น แต่ระบบปฏิบัติงานภายในระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรมกับหน่วยงานภายในที่เกี่ยวข้องไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

          นายสืบพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบเพื่อหาผู้กระทำผิดนั้น ในส่วนของระบบโครงการข่ายคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่เกิดเหตุสำนักงานศาลยุติธรรม ได้ประสานสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นองค์กรมหาชน โดยศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) ให้ตรวจสอบหาการบุกรุกและช่องโหว่ระบบเครือข่าย ขณะที่การตรวจสอบรายละเอียด IP ADDRESS พบว่ามีประมาณ 10 IP ADDRESS ของผู้ที่เข้ามาบุกรุกระบบโครงข่ายหน้าเว็บไซต์ซึ่งอยู่ในต่างประเทศ

ลักษณะข้อความของผู้บุกรุกทางคอมพิวเตอร์ที่ได้เขียนไว้ในหน้าเว็บเพจของสำนักงานศาลยุติธรรมนั้น ทำให้เห็นได้ว่า อาจเชื่อมโยงการพิพากษาคดีเกาะเต่า ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรม ขอเรียนว่า การกระทำที่เกิดขึ้นของผู้บุกรุกทางคอมพิวเตอร์ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการพิจารณา และคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีเกาะเต่า ที่ศาลได้ดำเนินการตามบทบัญญัติกฎหมายได้

ความผิด

ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งมีโทษตาม มาตรา 10 ฐานรบกวน ขัดขวาง ระบบคอมพิวเตอร์ ที่บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวน จนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 12 ผู้ใดกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการใก้บริการสาธารณะหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ ระวางโทษตั้งแต่ 3-15 ปี และปรับ 60,000-300,000 บาท โดยสำนักงานศาลยุติธรรม จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไปภายใต้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

     คิดว่ายกระดับความปลอดภัยของเว็บไซด์กระทรวงต่างๆ เพื่อบอกกันการคุกคามทางอินเตอร์เน็ต
ไทยรัฐTV



4. แพลงกิ้งนู้ด โผล่ว่อนเฟซบุ๊ก!! เตือน ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์




จากกรณีท่า แพลงกิ้ง กลายเป็นประเด็นฮิตในสังคมออนไลน์ โดยมีบุคคลจากหลากหลายอาชีพเกาะกระแสดังกล่าว ด้วยการทำท่า แพลงกิ้ง และโพสลงเว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กนั้น ล่าสุดเกิดประเด็น แพลงกิ้งนู้ด หรือการทำท่าแพลงกิ้ง โดยร่างกายเปลือยเปล่าไม่ใส่เสื้อผ้า ซึ่งเรื่องดังกล่าว ได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ว่า ได้รับการแจ้งจากเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม พบการเล่นแพลงกิ้งรูปแบบใหม่ คือ นู้ดแพลงกิ้ง โดยภาพส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ แก้ผ้าทำท่าแพลงกิ้งตามที่ต่างๆ รวมทั้งสถานที่สาธารณะ และยังพบภาพลักษณะเหมือนหญิงสาวชาวเอเชียเปลือยกายแพลงกิ้งบนเก้าอี้ ในห้องนอนแต่ไม่แน่ชัดว่า เป็นหญิงคนไทยหรือไม่  

ทั้งนี้ น.ส.ลัดดา กล่าวต่อว่า ขอเตือนว่าอย่าเอาแบบอย่าง และไม่ควรทำนู้ดแพลงกิ้ง ถึงแม้จะไม่เห็นอวัยวะเพศก็ตาม อีกทั้งการนำภาพมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ หรือในอินเทอร์เน็ต จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ทั้งนี้ สำนักเฝ้าระวังฯจะทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที.)ให้บล็อก และหาตัวผู้นำภาพดังกล่าวมาโพสต์มาดำเนินคดีด้วย

ความผิด
มาตรา 14 นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

คิดว่าไม่เลียนแบบในสิ่งที่ไม่ควร ควรจัดการอย่างจริงจังกับคนที่ทำ คอยสอดส่องดูแลบุคคลรอบข้างว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวหรือไม่ และว่ากล่าวตักเตือนตามความเหมาะสม
3.ฐานตัดต่อคลิปโกงข้อสอบศาล ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์

 


นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยถึงมติที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติมอบหมายให้ตน ดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ และกลุ่มบุคคลไม่ทราบจำนวนที่ร่วมกันจัดทำและเผยแพร่คลิปวิดีโอชุดที่ 3 เกี่ยวกับคำสารภาพเด็กฝาก ทางคอมพิวเตอร์ เครือข่ายเว็บไซต์ และหนังสือพิมพ์บางฉบับ ระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยใช้นามแฝงว่า Ohmygod3009 ที่กระทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ผ่านการตัดต่อรวม 4ตอน อันเป็นการหมิ่นประมาท หรือ ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย ซึ่งเป็นการร่วมกันกระทำความผิดใน ลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ม.198 ม.326 และ ม.328 รวมทั้งเป็นการเผยแพร่ และส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยคอมพิวเตอร์ 2550 ม.14 ส่วนกรณีการดำเนินการแจ้งความ ในครั้งนี้นั้น ถือเป็นครั้งที่ 2 จาก 3 คดีในกรณีการเผยแพร่คลิป ซึ่งเป็นกระบวนการทางกฎหมาย และความยุติธรรม ที่คณะตุลาการเลือกใช้ ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรรมการหรือไม่นั้น คงต้องรอมติจากคณะตุลาการ แต่อย่างไรแล้ว ทางสำนักงานจะไม่หยุดแสวงหาความจริงในเรื่องนี้อย่างแน่นอน

ความผิด

ผิดมาตรา 14 บทลงโทษ ปรับไม่เกิน 100,000 จำคุกไม่เกิน5ปี

คิดว่าคลิปวีดีโอที่ผ่านการตัดต่อที่มีเนื้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นพระมหากษัตริย์คิดว่าควรศึกษาข้อมูลหรือวิดีโอที่จะแชร์ให้ดีก่อนและใช้คำพูดที่เหมาะสม
นิว มาร์ท

2.ตัดสินคดี sms ‘อากง’ ผิดคดีหมิ่น+พ.ร.บ.คอมพ์ จำคุก 20 ปี

 


สื่อข่าวรายงานจากศาลอาญา รัชดา วันนี้ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่นายนายอำพล (สงวนนามกุล) อายุ 61 ปี หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “อากง” ซึ่งถูกฟ้องว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยข้อกล่าวหาว่าส่งเอสเอ็มเอสที่มีข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปยัง โทรศัพท์ของเลขานุการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี

นายสมเกียรติ ครองวัฒนสุข ผู้กล่าวหาในคดีนี้ ขณะเกิดเหตุดำรงตำแหน่งเลขานุการส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี แจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมความผิดทางเทคโนโลยี หลังจากได้รับ SMS จากเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 0813493615 ที่ส่งมายังเครื่องของตนในวันที่ 9, 11, 12, 22 พ.ค. 2553 รวมจำนวน 4 ข้อความ

จำเลยให้การปฏิเสธ ตั้งแต่ชั้นจับกุม โดยกล่าวว่าไม่รู้จักวิธีการส่ง SMS และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ส่งนั้นก็ไม่ใช่ของตน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าผู้ส่งข้อความหักซิมการ์ดทิ้งไปแล้ว จึงสืบเบาะแสจากหมายเลขประจำเครื่อง (IMEI)

หลังถูกจับกุมเมื่อ วันที่ 3 ส.ค.53 เขาถูกคุมตัวในเรือนจำนวน 63 วัน และได้ประกันตัวเมื่อวันที่ 4 ต.ค.53 หลังจากนั้น ในวันที่ 18 ม.ค. 54 อัยการมีคำสั่งฟ้องคดี จำเลยจึงต้องถูกควบคุมตัวอีกครั้ง ซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวโดยให้เหตุผลว่า ข้อเท็จจริงตามข้อหาการกระทำความผิดตามฟ้องกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนและ ความมั่นคงของประเทศอย่างร้ายแรง คดีอยู่ในชั้นพิจารณา หากผลการพิจารณาสืบพยานมีหลักฐานมั่นคงจำเลยอาจหลบหนี ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

  18 ม.ค. 54 อัยการมีคำสั่งฟ้องนายอำพลเป็นจำเลยในคดีที่มีการส่งข้อความหมิ่นเบื้องสูง ไปยังนายกรัฐมนตรีและบุคคลสำคัญ มีความผิดตามมาตรา 14 (2),(3) ตามพ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวตเตอร์ฯ และมาตรา 112 ตามประมวลกฎหมายอาญา

ความผิด 

จำเลยจึงมีความผิดตาม มาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2551 มาตรา 14 (2) และ (3) การกระทำของจำเลยมีหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม แต่ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นโทษหนักสุด ให้จำคุกกระทงละ 5 ปี ความผิด 4 กระทง รวมโทษจำคุกทั้งหมด 20 ปี

คิดว่าไม่ควรพิมพ์ข้อความหรือว่าร้ายใคร โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์
บุ๊กสปอต
1.ตำรวจบุกรวบหมอสาวคาโรงพยาบาลธนบุรี 




จากกรณีที่ตำรวจหลายหน่วยงานได้ร่วมกันจับ นายคธา ปาจาริยพงษ์ พนักงานบริษัทหลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ จำกัด น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนันธ์ อายุ 43 ปี กรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และนายสมเจตน์ อิทธิวรกุล อายุ 38 ปี เจ้าของโต๊ะสนุ๊กเกอร์แห่งหนึ่งในชลบุรี ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้ทำกระทำผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เรื่องการโพสต์ข้อความอันมิบังควรผ่านทางเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต จนก่อให้เกิดความไม่มั่นคงต่อประเทศชาติและส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจรวมถึง ตลาดหุ้นไทย  
ล่าสุดตำรวจก็ได้เข้าจับกุม พญ.ทัศพร รัตน์วงศา อายุ 42 ปี แพทย์รังสีวิทยา โรงพยาบาลธนบุรี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายปี 2550 ข้อหานำเข้าข้อมูลอื่นและเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงต่อประเทศ โดยมีพฤติกรรมไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ ปล่อยข่าวให้เกิดความเสื่อมเสีย โดยผู้ต้องหายอมรับว่า เคยโพสต์ข้อความมิบังควรลงในเว็บบอร์ดจริง

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปตรวจค้นที่ห้องพัก ภายในรอยัลปาร์ค คอนโดมิเนียม ภายในซอยพหลโยธิน 8 พบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

ขณะที่ พล.ต.ต.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับพญ.ทัศพร ในความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายปี 2550 โดยนำข้อมูลโพสต์เข้าไปทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดเอาคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหามาตรวจสอบ ว่าจะมีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกบ้าง หากพบมีผู้เกี่ยวข้องก็จะออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป ซึงตอนนี้ยังไม่มีการออกหมายจับใคร ต้องรอผลการตรวจสอบหลักฐานอีกครั้ง


ความผิด 


ผู้ต้องหากระทำความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายปี 2550 มีโทษจำ 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คิดว่าไม่กระทำการโพสข้อความหรือข้อมูลลงบนอินเตอร์เน็ต ที่มีผลกระทบต่อสังคม และจะป้องกันตัวเองจากการใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยจะไม่ล๊อกอินชื่อตัวเองไว้ในเครื่อง
นิว มาร์ท